Individuality in perfection

Rodenstock Impression Freesign Ad

 IMPRESSION FREESIGN® 3

Impression FreeSign 3 เลนส์โปรเกรสซีฟระดับไฮเอนด์ ซึ่งตอบสนองตามความต้องการของผู้สวมใส่ในระดับสูงสุด

ผู้ใช้เลนส์โปรเกรสซีฟทุกคนต่างมีเลนส์ในดวงใจที่ดีที่สุดสำหรับตนเองนั้นแตกต่างกัน  ดังนั้นที่ BRIDDERS เราจึงต้องผลิตเลนส์โปรเกรสซีฟที่ตรงใจ ตรงการใช้งาน ตามสภาพดวงตาของลูกค้าแต่ละท่าน จึงจะถือว่าเลนส์คู่นั้นๆเป็นเลนส์โปรเกรสซีฟที่ดีที่สุดในโลก  ซึ่งความเป็นไปได้ในการปรับแต่งโครงสร้างเลนส์โปรเกรสซีฟของ Rodenstock DNEye Freesign3 นั้นสามารถทำได้อย่างไร้ขีดจำกัด

กล่าวคือมีโครงสร้างเลนส์ให้เลือกมากกว่าหนึ่งพันล้านรูปแบบ
กำหนดบุคลิกของเลนส์โปรเกรสซีฟโดย BRIDDERS นั้น เราใช้โปรแกรมปรับแต่งโครงสร้างเลนส์โปรเกรสซีฟที่ต้องการโดยให้คะแนนตามความสำคัญของแต่ละระยะการใช้งาน

บุคลิกของเลนส์ที่ได้จะสะท้อนมาจาก 

  • การจัดวางตำแหน่ง ของจุดมองไกล กลางใกล้
  • ขนาดของพื้นที่ทั้งสามโซนในกรอบแว่น
  • คะแนนความสำคัญที่ให้กับโซนนั้นๆ

โดยทั้งสามส่วนนี้จะถูกจัดสรรอย่างประนีประนอมกัน เมื่อเราเพิ่มจุดใด จะต้องมีอีกจุดหนึ่งลดความสำคัญลงไป

  • Active index (ความถี่ในการเคลื่อนศีรษะ) จะเป็นตัวกำหนดความเสถียรของภาพ โดยปรับลดความสั่นไหวหรือเพิ่มความกว้างด้านข้างของเลนส์
  • อัตราเร่งของค่ากำลังเลนส์ จะกำหนดขึ้นจากวิธีการเหลือบตาลงจากระยะไกล มาจนถึงระยะใกล้ โดยกำหนดให้มีอัตราเร่งช้าเพื่อเพิ่มพื้นที่การมองและเคลื่อนไหว หรืออัตราเร่งเร็วเพื่อความสะดวกในการเหลือบมองระยะใกล้
  • ระยะการอ่านหนังสือเฉพาะบุคคล โดย BRIDDERS จะทำการตรวจวัดความยาวช่วงแขน และความถนัดในการถือสมาร์ทโฟน เอกสาร ฯลฯ  ซึ่งแม้มีความแตกต่างกันในความละเอียดระดับเซ็นติเมตร เพื่อให้โฟกัสการอ่านหนังสือที่ดีที่สุดในระยะที่ถูกต้องที่สุด

เทคโนโลยีที่ใช้บนเลนส์

  • Individual PD: Inset โครงสร้างปรับเปลี่ยนให้ดีที่สุดจากค่า PD และค่าสายตาของดวงตาแต่ละข้าง 
  • Inset Compensate: โครงสร้างเลนส์ถูกออกแบบมาให้สอดคล้องกับระยะเหลือบของผู้สวมใส่อย่างเป็นธรรมชาติ อาจปรับแต่งได้แม้ในกรณีที่ผู้ใช้มี Inset ผิดปกติ
  • EyeLT: เทคโนโลยีที่ชดเชยค่าและองศาของสายตาเอียง เพื่อให้สอดคล้องการเหลือบของลูกตาตามกฎของ Listing Law
  • Unique Customization: ใช้ซอฟท์แวร์พิเศษเพิ่มตัวแปรในการคำนวนทำให้การคำนวนละเอียดมากยิ่งขึ้น โดยคำนวนหาโครงสร้างเลนส์ที่ดีที่สุดก่อน เพื่อนำมาผลิตเลนส์สำหรับค่าสายตาและค่าตัวแปรของกรอบแว่นนั้นๆ
  • Zero base Curve Effect: มีการคำนวนและออกแบบให้ได้โครงสร้างที่ดีเยี่ยมที่สุดสำหรับทุกค่าสายตาต่อ base curve ที่ใช้
  • Retina Focus Principle: ชดเชยค่ากำลังสายตาตามการใช้งานจริงของผู้สวมใส่ โดยคำนึงถึงขนาดของรูม่านตาและค่าตัวแปรของกรอบแว่นบนใบหน้า
  • Wave Front Technology: ลดการกระจายการหักเหของแสงที่ไม่พึงประสงค์ ใช้ในการออกแบบเพื่อลดการบิดเบือนในระดับสูง (HOA)
  • Reading Range: สามารถเลือกระยะอ่านหนังสือตามความถนัดได้ตั้งแต่ 35cm.ถึง 55cm. ขยับความละเอียดได้ทีละ 1cm
  • Individual Design: สามารถปรับโครงสร้างของเลนส์ได้ตามใจชอบตามรูปแบบการใช้งาน โดยเปลี่ยนค่า Parameter DF, DN 
  • Freeform: เลนส์โปรเกรสซีฟแบบ Full Back Side ซึ่งเป็นเทคโนโลยีแบบ Realtime Freeform ไม่มีการ
  • base Curve Select: อิสระในการเลือกความโค้งเลนส์ ให้ได้มุมโค้งที่ออกมาสวยงามตามลักษณะของกรอบแว่นนั้นๆ
  • Corridor: เลือกได้ตั้งแต่ 10.00 มม. ถึง 17.00 มม. ความละเอียด 0.1มม.

ประโยชน์ที่ผู้ใช้จะได้รับ

  • เลนส์ชนิดแรกในโลกที่สามารถให้ผู้ใช้ออกแบบเลนส์ได้ด้วยตนเอง
  • เลนส์ผลิตมาเพื่อประกอบลงกรอบแว่นอันนั้นๆโดยเฉพาะ
  • ไม่ต้องใช้เวลาปรับตัวเข้าหาเลนส์
  • ท่านสามารถใช้สายตาทำงานได้นานต่อเนื่องอย่างมีประสิทธิภาพ
  • ลดความเมื่อยล้าของสายตา 
  • ลดอาการเมื่อยของต้นคอ
  • พื้นที่การใช้งานของเลนส์กว้างสูงสุด
  • ลดการบิดเบือนของภาพ ลดความบิดเบี้ยวของขอบเลนส์
     

BRIDDERS’s Comment

เลนส์โปรเกรสซีฟตัวท้อปของโรเดนสต๊อค ที่ว่ากันว่าดีที่สุดและราคาแพงแบบสุดๆเช่นกัน ตัวเลนส์สามารถปรับโครงสร้างได้ตามใจชอบแบบละเอียดยิบ ตั้งแต่ระยะเหลือบของค่า Corridor ที่สั่งได้ละเอียดถึง 0.1mm (เหนือกว่าทุกยี่ห้อในตลาด) ซึ่งที่บริดเดอร์เราจะทำการประเมินให้สองครั้ง
1) ประเมินเบื้องต้นด้วย Rodenstock trial Progressive lens set ของ Corridor 12, 14, 16
2)ประเมินเชิงลึกจากพฤติกรรมการเหลือบสายตาบนเครื่อง Pupils eyes tracking ที่จะจัดเก็บข้อมูลเป็นตัวเลขของการใช้งานจริง แล้วจึงนำมาวิเคราะห์เพื่อกำหนดโครงสร้างของเลนส์ที่เหมาะสมที่สุด

เลือกพื้นที่โซนต่างๆ ตามความชอบของผู้ใช้ ผ่านโปรแกรมคอมพิวเตอร์แบบเรียลไทม์ ซึ่งโปรแกรมนี้แสดงผลได้เหมือนจริงไม่โอเวอร์เหมือนภาพโฆษณาโปรเกรสซีฟอื่นๆ ทำให้ผู้ใช้เข้าใจโครงสร้างของเลนส์ก่อนจะสั่งทำ เรียกได้ว่าจะเอามุมมองแต่ละโซนกว้างแค่ไหน ปรับแต่งโครงสร้างอย่างไร ก็สามารถสั่งได้หมด

เลนส์จะผลิตออกมาแบบเฉพาะบุคคล ตามค่าพารามิเตอร์ของกรอบแว่น และตำแน่งดวงของผู้ใช้อย่างเฉพาะเจาะจงในะบบสามมิติ โดยเครื่อง Rodenstock ImpressionIST III ในการคำนวณค่าดังกล่าว ละเอียดในระดับ 0.1mm ในทุกๆค่าพารามิเตอร์

 

ไฮไลท์ที่ทำให้เลนส์รุ่นนี้พิเศษสุดๆ คือการรีดศักยภาพสูงสุดโดยสแกนผิวกระจกตาด้วย DNEye Scanner ช่วยให้การผลิตเลนส์ละเอียดได้มากขึ้นจากข้อมูลแผนที่ในดวงตาแต่ละข้าง คำนวณทางเดินของคลื่นแสงด้วยระบบ Wave front ทั้งในสภาวะที่รูม่านตาหดและขยายตัว ซึ่งค่าที่ได้นั้นไม่สามารถตรวจด้วยวิธีการ subjective refraction (การวัดตาแบบถามตอบ)

แล้วจึงนำข้อมูลการสแกนดังกล่าวมาใส่รายละเอียดลงไปในเลนส์แต่ละจุดๆ ให้ได้ (HOA) ละเอียดเพิ่มเติมจากค่าสายตาที่วัดได้ในห้องตรวจ อัลกอริทึ่มของ Rodenstock จะปรับแต่งเลนส์ให้มีความละเอียด 0.01 Diopter บนพื้นที่ทั้งหมด 1000 จุดต่อดวงตา 1 ข้าง 

ผลลัพธ์จากการสแกนดวงตาทำให้

  • ลดแสงฟุ้งกระจายในเวลากลางคืน (สภาวะที่รูม่านตาขยายตัว)
  • เพิ่ม Contrast การมองเห็นได้สูงขึ้น เห็นสีของวัตถุได้ดีขึ้น
  • เพิ่ม Depth of field การมองเห็นให้ดีขึ้น

ซึ่งเครื่อง DNEye Scanner นั้นมีที่บริดเดอร์เพียงเครื่องเดียวในประเทศไทย ณ ขณะนี้ (2017)

หากใครกำลังมองหาเลนส์โปรเกรสซีฟระดับไฮเอนด์ต้องพิจารณา Impression Freesign3 เป็นตัวเลือกแรกๆเสมอ เพราะถือเป็นเลนส์ที่ละเอียดที่สุด ณ ปัจจุบัน ใช้ค่าตัวแปรมากมาย และเครื่องมือเฉพาะเจาะจงหลายอย่าง ทำให้เป็นเลนส์ที่สั่งทำยากและต้องเชี่ยวชาญในการวัดอย่างสูง ซึ่งที่บริดเดอร์สเรามีผู้ให้คำปรึกษาโดยเฉพาะครับ